ในโลกปัจจุบันที่ทุกอย่างช่างรวดเร็วและแสนวุ่นวาย ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนพบเจอปัญหาต่างๆ
ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน จนบางครั้งทำให้เรา เหนื่อย ท้อ และวิตกกังวล ความรู้สึกเหล่านี้เริ่มก่อตัวขึ้นภายในตัวเราทีละเล็กละน้อยจนวันนึงมันกลายเป็นดั่งมะเร็งที่คอยกัดกร่อนจิตใจของเรา และทำให้หลายๆคนรู้สึกแตกสลายมาแล้ว
เคยมั้ย? ที่รู้สึกกังวล เหนื่อยง่าย ใจสั่น หายใจไม่สะดวก และกลัวโดยไม่มีเหตุผล หากคุณมีความรู้สึกแบบนี้ คุณไม่ได้ตัวคนเดียว เพราะยังมีผู้คนอีกมากมายที่มีอาการแบบนี้เช่นกัน สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น เป็นหนึ่งในอาการที่มักจะพบจากผู้ที่ปวยเป็น โรควิตกกังวล ซึ่งเป็นกลุ่มโรคทางจิตที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทย จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้เก็บสถิติผู้ป่วยโรควิตกกังวลในประเทศไทยในปี 2567 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยประมาณ 1.4 แสนราย และตัวเลขสถิติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) คือ 284 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 3.6% ของประชากรโลก
แล้วเราจะป้องกันหรือรักษาโรคนี้ได้อย่างไรบ้าง คำถามนี้เริ่มเกิดขึ้นในหัวของคุณแล้วใช่มั้ยสิ่งแรกที่เป้อยากจะแนะนำสำหรับทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้และรู้สึกว่าตัวเองอาจจะเป็นโรควิตกคือการ พบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอื่นๆ เพราะพวกเขาสามารถช่วยคุณระบุสาเหตุของความวิตกกังวลและวิธีรักษาที่เหมาะสมให้กับคุณได้ แต่ถึงกระนั้นโรคนี้ใช่ว่าทานยาอย่างเดียวแล้วจะหาย เพราะแพทย์หลายๆท่านแนะนำว่าควรรักษาโดยการบำบัดจิตควบคู่ไปด้วยถึงจะเป็นวิธีที่เหมาะสม ซึ่งการบำบัดจิตนั้นมีหลายรูปแบบ โดยในวันนี้ผมจะพาทุกท่านมารู้จักกับ Sound Healing
เสียงบำบัด หรือ Sound Healing คือศาสตร์การบำบัดที่ใช้คลื่นเสียงและความถี่ต่างๆ ในการช่วยเยียวยาจิตใจและร่างกาย โดยจะเข้าไปทำงานร่วมกับคลื่นความถี่ในสมองมนุษย์ ถึงตรงนี้เรามารู้จักคลื่นความถี่ในสมองกันก่อนว่าในร่างกายของเรานั้นก็มีสิ่งนี้เช่นกัน โดยหลักๆแล้วคลื่นสมองของเรามี 4 ประเภท แต่ละประเภทมีความถี่และรูปแบบที่แตกต่างกัน และส่งผลต่อสภาวะจิตใจและร่างกายของเราเช่นกัน
1. คลื่นเดลต้า (Delta Waves) : เป็นคลื่นสมองที่อยู่ในช่วงความถี่ 0.5 – 4 Hz
จะพบในสภาวะร่างกายที่หลับสนิทหรือไร้สติ
ลักษณะของคลื่นจะช้า กว้าง
ผลกระทบต่อร่างกาย :
-
- ส่งเสริมการนอนหลับลึก
-
- กระตุ้นการเจริญเติบโตและการฟื้นฟู
-
- ลดความเครียดและความวิตกกังวล
2. คลื่นเธต้า (Theta Waves) : เป็นคลื่นสมองที่อยู่ในช่วงความถี่ 4 – 8 Hz
พบในสภาวะร่างกายที่หลับตื้น ฝัน หรือเกือบหลับ
ลักษณะของคลื่นจะ ช้า ปานกลาง
ผลกระทบต่อร่างกาย :
-
- เพิ่มความคิดสร้างสรรค์
-
- กระตุ้นความทรงจำ
-
- ลดความตึงเครียด
3. คลื่นอัลฟ่า (Alpha Waves) : เป็นคลื่นสมองที่อยู่ในช่วงความถี่ 8 – 13 Hz
พบในสภาวะร่างกายที่กำลังผ่อนคลาย มีสติ
ลักษณะของคลื่นจะช้า กว้าง
ผลกระทบต่อร่างกาย :
-
- เพิ่มการโฟกัสและสมาธิ
-
- ลดความเครียดและความวิตกกังวล
-
- ส่งเสริมความสงบสุข
4. คลื่นเบต้า (Beta Waves) : เป็นคลื่นสมองที่อยู่ในช่วงความถี่: 13 – 30 Hz
พบในสภาวะร่างกายที่กำลังตื่น มีสติ
ลักษณะของคลื่นจะ เร็ว สั้น
ผลกระทบต่อร่างกาย :
-
- เพิ่มการตื่นตัวและการรับรู้
-
- ส่งเสริมความคิดและการตัดสินใจ
-
- กระตุ้นความจำ
ซึ่งคลื่นความถี่ในสมองมนุษย์นั้นโดยปกติแล้วจะไม่ส่งผลเสียต่อเรา แต่หากมีความผิดปกติของคลื่นสมอง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งทางกายและทางจิตดังนี้
การนอนหลับผิดปกติ : การนอนหลับไม่เพียงพอ การนอนหลับมากเกินไป หรือการนอนหลับไม่สม่ำเสมอ ล้วนส่งผลต่อคลื่นสมอง ทำให้เกิดปัญหาการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ หลับยาก หลับไม่สนิท ตื่นบ่อย
ความเครียด : ความเครียดเรื้อรัง ส่งผลต่อคลื่นสมอง ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพทางกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ระบบย่อยอาหารแปรปรวน
โรคทางจิต : โรคทางจิตบางชนิด เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของคลื่นสมอง
ปัญหาการจดจ่อ : คลื่นสมองที่ผิดปกติ ส่งผลต่อความสามารถในการจดจ่อ ทำให้มีสมาธิสั้น จดจ่อกับงานได้ยาก
ปัญหาทางอารมณ์ : คลื่นสมองที่ผิดปกติ ส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้หงุดหงิด ควบคุมอารมณ์ยาก
ปัญหาการคิด : คลื่นสมองที่ผิดปกติ ส่งผลต่อการคิด ทำให้คิดช้า คิดสับสน
ปัญหาการตัดสินใจ : คลื่นสมองที่ผิดปกติ ส่งผลต่อการตัดสินใจ ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด
กดติดตาม Rhythm of Wealth พื้นที่ฮีลใจและกายสำหรับทุกคน
FB : Rhythm of Wealth
IG : @rhythm.of.wealth
TT : rhythm_of_wealth
YT : Rhythm of Wealth
ติดต่อสอบถามข้อมูลบริการเพิ่มเติม
Line : @rhythmofwealth
Website: www.rhythmofwealth.studio
#เสียงบำบัด #rhythmofwealth #SoundHealing #Meditation #Mindfulness #Wellness
#SoundHealing #เสียงบำบัด #สุขภาพจิต #จัดการความเครียด